วิหารเหนือม่านหมอกที่ดอยพระฌาน #สายบุญ
วัดพระธาตุดอยพระฌาน
จากบันทึกในคัมภีร์ใบลานเก่าแก่ ของวัดนาคตหลวง เขียนเอาไว้ว่า เมื่อครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จโดยการเหาะมาพักอยู่เหนือม่อนดอยที่นี้ คำว่าฌานในภาษาท้องถิ่นแปลว่าเหาะ ชาวบ้านจึงเรียกที่นี่ว่าดอยพระฌาน เชื่อกันว่าจุดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่นั้นมีเพียงแค่อาสนะที่นั่งประกอบด้วยก้อนหิน ดิน และศิลาแลง กอรปกันเป็นก้อนเล็กก็น้อย เป็นที่กราบไหว้บูชาของปู่ย่าตายายในสมัยอดีต
จุลศักราช 1262 เดือน 9 แรม 7 ค่ำ ปีชวด ครูบาเจ้าเตจ๊ะ สิริธัมโม วัดป่าตันหลวง ครูบาธำ ธัมมลังกา วัดนาคตหลวง ได้ไปนิมนต์ ครูบาเจ้าอโนไชย ผู้ปกครองคณะสงฆ์ลำปาง วัดปงสนุกเหนือ อำเภอเมืองลำปาง มาเป็นประธานสงฆ์ ซึ่งมีครูบาเจ้าปินดา วัดปงสนุกใต้ ครูบาเจ้าเตจ๊ะ วัดป่าตันหลวง ครูบาเจ้าธำ วัดนาคตหลวง ร่วมกับพระสงฆ์สามเณรในเขตพื้นที่ใล้เคียง มาร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์ ขอขมาสถานที่ แล้วทำการปฏิสังขรณ์ กรอบพระเจดีย์ธาตุขึ้นมา ครอบแท่นอาสนะ เหนื่อยยอดดอยพระฌานแห่งนี้
ประวัติก่อนเริ่มสร้างดอยพระฌาน
ได้พระราชทานเป็นรอยเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวลี้ลับและเป็นที่ยำเกรงของชาวบ้าน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งที่ชาวตำบลป่าตันให้ความเคารพนับถือ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลังจากการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งแรก ยังไม่มีผู้ใดมาอยู่อาศัย หรือก่อสร้างเพิ่มเติม มีเพียงกันขึ้นมากราบสักการะปีละ 1 ครั้ง จากคนในชุมชนตำบลป่าตัน
พระครูปัญญาวุฒิคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนาคตหลวง ท่านใดนำชาวบ้านขึ้นมาดูแล ปรับปรุงสถานที่ สร้างศาลา สร้างบ่อน้ำ ไถปรับสันเขาให้เป็นล้าน เพื่อความสะดวกแก่การประกอบพิธีบูชาพระธาตุ และท่านยังเป็นผู้นำชาวบ้าน ให้ขึ้นมาประกอบพิธีบูชาพระธาตุ เป็นประจำทุกปี และถือปฏิบัติมาอย่างสม่ำเสมอตลอดช่วงระยะเวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่ จนเมื่อท่านละสังขารไปแล้ว โดยที่ท่านได้บอกแก่ชาวบ้านนาคตเอาไว้ว่า ท่านไม่ใช่เจ้าของดอยพระฌานแห่งนี้ ท่านทำได้แค่นี้ แต่ต่อไปในภายภาคหน้า เจ้าของเขาจะมาบูรณะก่อสร้างให้เจริญรุ่งเรือง ซึ่งคำบอกเล่านี้ได้เป็นที่ประจักษ์
ต่อมาพระอาจารย์พรชัย อัคควังโส ได้มาพำนักอยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พุทธศักราช 2552 พร้อมกับพระภิกษุสหธรรมิก ที่บวชพร้อมกัน ซึ่งเป็นชาวบ้านนาคต คือพระปิยะพงษ์ ธัมมวังโส พระอาจารย์พรชัยท่านได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะรู้จักดอยพระฌานแห่งนี้ ได้มีนิมิตบอกให้ท่านมาอยู่ที่แห่งนี้ เป็นดอยที่มีพระธาตุองค์สีขาว มีแม่น้ำไหลผ่านอยู่ไม่ไกลจากบ้านท่านปิยะพงษ์ โดยนายนิมิตรได้บอกไว้ว่า ขอให้มาช่วยสร้างวัดให้หน่อย ต่อไปในภายภาคหน้า คนจะมาที่นี่เยอะขึ้น และที่นี่จะพาคนไปสวรรค์ได้มาก ท่านปิยะพงษ์คาดว่าสถานที่ในนิมิตนี้ น่าจะเป็นดอยพระฌาน เพราะสามารถมองเห็นได้จากหน้าบ้านของท่าน และท่านเคยได้ยินแต่เพียงชื่อไม่เคยได้ขึ้นไปสักที จึงได้นัดหมายกันเดินทางมาสำรวจและตัดสินใจเริ่มสร้างวัด โดยท่านปิยะพงษ์ได้มีนิมิตฝันว่า มีพญานาคใหญ่มารับท่านทั้ง 2 ขึ้นหลังแล้วพาข้ามแม่น้ำจางขึ้นมาบนดอยพระฌานที่มีงูจำนวนมากน้ำท่วมอยู่ทั้งดอย
นอกจากนั้นบนดอยพระฌานแห่งนี้นะครับเราจะเห็นรูปปั้นของแม่ย่าสุมาลีซึ่งตามความเชื่อก็คือ แม่ย่ามาเข้าฝันท่านเจ้าอาวาสบอกว่าจะช่วยสร้างวัด สร้างวิหาร และก็สำเร็จเป็นจริงดังนั้น จึงเกิดความเชื่อถือศรัทธาของคนในชุมชนเป็นอย่างมาก ข่าวกันว่าแม่ย่าจะให้พรสำเร็จในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงานหรือการเงิน
ดอยพระฌานแห่งนี้นะครับท่านผู้ชม จะมีความเชื่อเกี่ยวกับตำนานของพญานาค จึงมีรูปปั้นของเทวะนาคี และพ่อปู่ภุชงค์นาคราช ประทับอยู่โดยรอบของพระบรมสารีริกธาตุ
วิวทิวทัศน์ของดอยพระฌานแห่งนี้จะสามารถมองเห็นบางส่วนของอำเภอแม่ทาได้อย่างชัดเจน รวมถึงวิวแม่น้ำจังที่ไหลผ่านตีนดอยมีความงดงามตระการตา อีกครั้งในหน้าหนาวท่านสามารถขึ้นดอยพระฌานในช่วงเช้าเพื่อไปชมทะเลหมอก และรับอากาศบริสุทธิ์บนยอดดอยได้อีกด้วย ฝากไว้นะครับสำหรับวัดที่มีความสวยงามเช่นนี้ ตัวผู้เขียนเองอยากให้ท่านเขียนเวลาถ้าเป็นไปได้เดินทางมาเที่ยวในวันธรรมดาเพื่อจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่ดื่มด่ำและคนไม่หนาแน่นจนเกินไป เหตุเพราะว่าในวันธรรมดาท่านสามารถที่จะขับรถยนต์ขึ้นไปถึงด้านบนได้เลย แต่ถ้าท่านมาในวันเสาร์อาทิตย์ ด้วยความหนาแน่นของนักท่องเที่ยว ทำให้ท่านจำเป็นที่จะต้องนั่งรถสองแถวขึ้นไป หรือถ้าท่านใดมีความเพียรพยายามเป็นที่ตั้งก็สามารถเดินขึ้นบันไดนาค ถือเป็นกุศลในการขึ้นไปกราบสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุได้เช่นเดียวกัน พบกันใหม่บทความหน้าครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น