ปลูกหญ้าหวานอินทรีย์ อบขายสร้างรายได้หลักแสน #สายสร้างอาชีพ

 

วันนี้จะพาผู้อ่านทุกท่านไปพบกับไร่หญ้าหวานอินทรีย์กันนะครับ หลังจากที่บทความที่แล้ว ได้อธิบายเกี่ยวกับหญ้าหวานไปแล้ว บทความนี้ก็จะมาเล่าให้ฟังถึงวิธีการปลูกหญ้าหวาน และการเก็บเกี่ยวครับ เราได้ขึ้นไปดูงานกันที่ฟาร์มหญ้าหวานอินทรีย์ บ้านอมลองหมู่ 2 อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยพี่ละออง ศรีวรรณะ เป็นผู้ให้ข้อมูลความรู้แบบไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว 

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า หญ้าหวานนั้น เป็นพืชที่มีรสหวาน สามารถให้ความหวานแทนน้ำตาลได้ และที่สำคัญ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ทานดีมาก เพราะหญ้าหวานเองมีสรรพคุณของพืชสมุนไพรหลายอย่าง เช่น ลดน้ำตาล และไขมันในเลือดได้ดี คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน หรือคนที่ต้องการลดน้ำหนัก บอกเลยว่า น้ำหญ้าหวานตัวนี้ไปทาน จะเห็นผลได้ดีมาก 

สำหรับวิธีการขยายพันธุ์ต้นหญ้าหวานนั้น ก็แสนจะง่ายดายครับ เพราะหญ้าหวานจะมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม ซึ่งมีรากที่แข็งแรง และโตง่าย ทนแดด ทนฝนได้ดี แต่ถ้าความชอบจริง ๆ แล้ว หญ้าหวานชอบอากาศเย็นครับ และต้องโดนแดดด้วยถึงจะดี ดังนั้น หญ้าหวานจึงเจริญเติบโตได้ดีเมื่อปลูกบนเขา บนดอย ใบหญ้าหวานจะออกเย๊อะในช่วงหน้าฝน และจะออกดอกมาก ถ้าโดนแดดที่จัดจนเกินไป เราจะต้องคอยตัดดอกมันออกเพื่อให้ได้ใบที่สมบูรณ์ หรือแบ่งดอกไว้เพาะเอาเมล็ดก็ได้ แต่ถ้าจะขยายพันธุ์จริง ๆ วิธีแบ่งราก แบ่งกอ จะให้ผลที่ดีกว่าวิธีอื่น ถึงแม้ว่า หญ้าหวานจะสามารถปักชำได้ก็ตาม 

เวลาที่เราจะเก็บเกี่ยวหญ้าหวาน พี่ละอองแนะนำให้ตัดที่โคนต้นได้เลยครับ เพื่อให้ช่อใหม่แตก และงามกว่าเดิม ถ้าเราตัดสูงเกินไป ต้นหญ้าหวานจะยาวเกินไป และล้มลงดินตามธรรมชาติของเค้า เพื่อที่ก้านจะแตกรากใหม่ ซึ่งไม่เป็นผลดีครับ ผลผลิตจะได้น้อย และที่สำคัญใบจะไม่สวย สู้ตัดเป็นพุ่ม ปล่อยให้แตกเป็นพุ่มดีกว่า พุ่มไหนเริ่มหนา ก็แบ่งเถา แบ่งรากไปปลูกเพิ่ม สำหรับเคล็ดลับของพี่ละอองก็คือ เมื่อแบ่งต้นออกมาปลูกที่ดินใหม่ ก่อนปลูก แกจะนำเอาเฉพาะส่วนราก ไปแช่ M150 ที่ตีเข้ากันกับกะปิ เป็นเทคนิคทำให้หญ้าหวานแตกรากได้เร็วขึ้น และจะไม่เหี่ยวเฉา แต่ที่สำคัญก็คือ ก่อนที่จะลงดินใหม่ ห้ามนำน้ำไปรดใบเด็ดขาด หญ้าหวานจะเหี่ยวเฉาทันที

ในส่วนของการดูแลหญ้าหวานนั้น ก็แสนจะง่ายดาย ถ้าคุณเอาไปปลูกที่ร้อน จำเป็นที่สุดคือน้ำต้องถึง เช้าเย็น ทุกวันในหน้าร้อน ถ้าขาดน้ำเพียงวันเดียว หญ้าหวานจะเหี่ยว และแคระแกรนทันที ทางที่ดีทำสแลนกันแดดสักหน่อยนะครับ จะช่วยได้เย๊อะ ในส่วนของปุ๋ย ไม่แนะนำปุ๋ยเคมี เพราะสารเคมีจะติดอยู่กับใบหญ้าหวานได้ เวลาที่นำไปบริโภค อาจจะสะสมและเป็นอันตราย วิธีทำปุ๋ยหมักก็ง่ายแสนง่าย จะหมักเศษใบไม้ใบหญ้า แล้วใช้จุลินทรีย์ช่วยในการย่อยสลาย ก็กลายเป็นปุ๋ยหมักธรรมชาติ หรือจะใช้ขี้วัว ขี้หมู ตากให้แห้งสนิทสัก 1 เดือน แล้วค่อยน้ำมาโรยรอบ ๆ โคนต้น ค่อย ๆ ใส่นะครับ อย่าไปใส่เย๊อะ เดี๋ยวดินจะร้อนเกินไป 

เคล็ดไม่ลับอีกวิธีหนึ่ง ที่จะช่วยให้กำจัดวัชพืชได้ง่าย ก็คือการนำผ้ายาง หรือพลาสติกอย่างหนา คลุมร่อง เวลาที่กำจัดวัชพืชในแปลงก็จะทำได้ง่ายดายยิ่งขึ้น 

ในส่วนของวิธีการเก็บเกี่ยวก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปีครับ ถ้าน้ำถึง ดินถึง ยังไงก็ให้ผลผลิตตลอด ยิ่งตัดยิ่งแตก และเมื่อตัดแล้วก็นำไปอบ จะเป็นเตาอบแบบธรรมชาติที่พี่ละอองแกอาศัยพลังแสงอาทิตย์ ก็ทำได้ หรือจะเป็นเตาอบแบบอุตสาหกรรมก็ได้ แต่ราคาจะสูงสักหน่อย ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีกลุ่มนักศึกษาทำครับ

ถ้าเป็นไอเดียของพี่ละออง แกก็จะใช้ผ้ายางใสคลุมโรงอบและด้านในทำที่วางตะแกรง ใต้ตะแกรงจะใช้แผ่นโลหะ ช่วยในการรับความร้อน และเพิ่มความร้อนภายในโรงอบ  และการเก็บเกี่ยวที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า ก่อน 08.00 เพื่อที่เวลานำใบหญ้าหวานเข้าไปอบในโรงอบ อุณภูมิจะไม่ร้อนจนเกินไป ถ้านำเข้าไปตอนร้อน ๆ จะทำให้ใบดำ ไม่สวย นี่เป็นเทคนิคอีกอย่างหนึ่งคือ อุณภูมิเตาจะค่อย ๆ ร้อนจากตอนเช้า ไปถึงตอนสาย ๆ เมื่อใบชาหญ้าหวานแห้งสนิทแล้ว สีจะสวยงาม

เมื่ออบเสร็จแล้วก็จะได้ใบชาอย่างในรูปนะครับ ซึ่งก็สามารถนำมาบรรจุหีบห่อ เพื่อจัดจำหน่าย อาจจะต้องมีช่องทางการตลาดสำหรับสินค้าของคุณด้วยนะครับ ส่วนมากแล้วก็จะขายกันในลาซาด้า หรือช้อปปี้ แต่คู่แข่งก็จะเย๊อะหน่อย และที่สำคัญตอนนี้ กรีนสวีท ได้นำผลิตภัณฑ์ใบชาหญ้าหวานผลักดันเข้าไปขายในแม็คโครกันแล้ว ในราคาขีดละ 65.- บาท (ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ) ซึ่งก็บอกได้เลยว่า ใครทำก่อน สามารถครองตลาดได้ก่อน ถึงจะประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้น อย่างน้อย ๆ ก่อนทำการเพาะปลูก สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณต้องมีตลาดก่อนนะครับ ไม่งั้นปลูกไปแล้วไม่รู้จะขายใครก็ไม่เกิดประโยชน์ หรือคุณจะหาวิธีแปรรูปเป็นสินค้าทางการเกษตรแบบอื่น ๆ หรือขายต้นก็โอเค เพราะยังเป็นควมต้องการของตลาดต้นไม้อยู่เช่นกัน แต่บอกได้เลยว่า หากหญ้าหวานได้รับความนิยมมากขึ้นในอนาคต อาจจะเป็นพืชที่ปลูกกันเกลื่อนกลาดก็เป็นได้ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนนะครับ สู้ ๆ ฝ่าวิกฤติไปให้ได้ครับ