บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2025

เที่ยวแจ้ซ้อนลำปาง แช่บ่อน้ำร้อนปรับสมดุลร่างกาย

รูปภาพ
เที่ยวเชิงสุขภาพคืออะไร เที่ยวแจ้ซ้อน ลำปาง แช่บ่อน้ำร้อนปรับสมดุลร่างกาย ในยุคที่คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” (Wellness Tourism) กลายเป็นแนวทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ได้มุ่งเน้นแค่การพักผ่อนหรือถ่ายรูปเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการดูแลร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ไปพร้อมกัน การเที่ยวเชิงสุขภาพมีหลายรูปแบบ เช่น แช่น้ำแร่หรือน้ำพุร้อนธรรมชาติ ทำสมาธิ ฝึกโยคะ หรือเดินจงกรมในธรรมชาติ รับประทานอาหารสุขภาพหรืออาหารสมุนไพร เดินเที่ยวในพื้นที่อากาศดี สัมผัสธรรมชาติและความเงียบสงบ หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายสุขภาพก็คือ “อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง” ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่อง บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุจากใต้พิภพและมีอุณหภูมิเหมาะสมต่อการแช่เพื่อบำรุงสุขภาพ แช่น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ดีต่อสุขภาพอย่างไร      การแช่น้ำพุร้อนเป็นกิจกรรมบำบัดที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังคงได้รับความนิยมในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน และไทย โดยเฉพาะที่ลำปางซึ่งมีแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติบริสุทธิ์มากมาย ประโยชน์ต่อสุขภาพของกา...

ทัวร์เพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงวัย พร้อมเที่ยวธรรมชาติเมืองรองที่ลำปาง

รูปภาพ
ทัวร์เพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงวัย พร้อมเที่ยวธรรมชาติเมืองรองที่ลำปาง      เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ หลายคนอาจเริ่มมองหากิจกรรมที่ได้ทั้ง “พักผ่อนกายใจ” และ “ดูแลสุขภาพ” ไปพร้อมกัน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของผู้สูงอายุในยุคนี้ เพราะไม่เพียงได้สัมผัสธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ และผ่อนคลายความเครียดเท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้สดชื่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผู้สูงวัยสามารถเลือกท่องเที่ยวได้หลากหลายรูปแบบ เช่น      -เดินชมธรรมชาติในเส้นทางที่ไม่ชันมาก      -แช่น้ำแร่ธรรมชาติหรือสปาสมุนไพรเพื่อบำรุงสุขภาพ      -ทำกิจกรรมเบา ๆ อย่างโยคะ ชาเลนจ์การหายใจ หรือสมาธิในสวน      -เยี่ยมชมชุมชน เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารพื้นบ้านที่ดีต่อสุขภาพ      และหนึ่งในจังหวัดที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทัวร์ลักษณะนี้ก็คือ “จังหวัดลำปาง” เมืองรองที่ยังคงเสน่ห์ความสงบ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และมีแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพมากมาย ทั้งบ่อน้ำพุร้อน สวนสมุนไพร วัดกลางขุนเขา ...

ฝึกหายใจลึก ให้ประโยชน์กับสุขภาพอย่างไร #ปราณวิถี

รูปภาพ
  ฝึกหายใจลึก...เรื่องง่าย ๆ ที่ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้จริง      บางที “สิ่งที่เราต้องการที่สุด” ไม่ใช่กาแฟแก้วที่สี่ หรือการนอนพักอีก 10 ชั่วโมง แต่อาจเป็นแค่... “การหายใจลึก ๆ สักครั้ง” ก็ได้ หลายคนไม่รู้ว่าเรา “หายใจผิดวิธี” มาทั้งชีวิต ส่วนใหญ่เราหายใจตื้น ๆ แค่ระดับหน้าอก โดยไม่เคยดึงอากาศเข้าไปลึกถึง “ท้อง” เลย ซึ่งการหายใจแบบนี้ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อย ระบบประสาทตึงเครียด สมองล้า และอารมณ์ก็แปรปรวนง่ายโดยไม่รู้ตัว แล้วการ “หายใจลึก” คืออะไร? คือการหายใจที่ให้ลมหายใจเข้าไปถึงกระบังลม เวลาหายใจเข้า ท้องเราจะป่องออก (ไม่ใช่หน้าอก) แล้วตอนหายใจออก ท้องก็จะยุบลงอย่างช้า ๆ เป็นการเคลื่อนไหวที่ช่วยให้ปอดขยายเต็มที่ และให้ร่างกายรับออกซิเจนได้เต็มปอดจริง ๆ ฟังดูเรียบง่าย...แต่ผลลัพธ์นั้นไม่ธรรมดาเลย ประโยชน์ของการหายใจลึก มีมากกว่าที่คิด 1. ลดความเครียด ความกังวล และความฟุ้งซ่านในใจ เวลาหายใจช้าและลึก ร่างกายจะเข้าสู่โหมด “พักผ่อนและฟื้นฟู” หัวใจเต้นช้าลง กล้ามเนื้อคลายตัว สมองสงบขึ้น เหมือนได้กดปุ่ม pause ให้ชีวิตที่กำลังวิ่งเร็วเกินไป 2. ช่วยให้หลั...

ไม่เคยฝึกสมาธิเลย สามารถฝึกปราณวิถีได้หรือไม่

รูปภาพ
  หลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับการฝึกปราณวิถี ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฝึกสมาธิในแบบพุทธหรือไม่ จนกระทั่งมีผู้สอบถามเข้ามาว่า "ไม่เคยมีพื้นฐานการฝึกสมาธิเลย สามารถฝึกปราณได้ไหม" ก่อนอื่นต้องขออธิบายให้เข้าใจก่อนนะครับว่า คำว่า "สมาธิ" นั้น หมายถึงการมีจิตตั้งมั่น จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ดังนั้น การฝึกสมาธิบนโลกนี้มีหลายรูปแบบ บ้างเป็นการท่องบ่นคำสวด คำภาวนา หรือโศลกเพื่อให้เกิดสมาธิตั้งมั่น หรือการร้องเพลงประสานเสียง หรือกิจกรรมอื่นใดก็ตาม เช่น สมาธิในการอ่านหนังสือ เป็นต้น ดังนั้น ความเข้าใจของคนไทยเกี่ยวกับคำว่า "นั่งสมาธิ" คือกระบวนการฝึกจิตในรูปแบบของศาสนา เพื่อขัดเกลาจิตใจ เพื่อเข้าใจกรรมฐาน เพื่อระลึกถึงพระรัตนตรัยและหลักคำสอน เพื่อการหลุดพ้นตามเป้าหมายของศาสนาเช่นกัน  แต่ในมุมมองของการฝึกปราณ จะมุ่งเน้นเป้าหมายไปที่ความสำเร็จของสุขภาพร่างกาย การเข้าใจระดับจิตวิญญาณผสานกับพลังงานบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ถึงแม้ปัจจุบันนี้จะเหลือน้อยลงไปแล้วก็ตามนะครับ เรียกได้ว่าเป็นการฝึกนอกศาสนาเสียทีเดียวก็อาจจะบางส่วน เพราะในสายของพลังจักระ นักบวชมหายานนิกายตันตระก็ให้ความ...

ตัวอย่างคาถานอร์สโบราณ

รูปภาพ
ตัวอย่างคาถานอร์สโบราณที่พอจะสืบค้นบันทึกข้อมูลได้บ้าง จะเลือกใช้หรือศึกษาอย่างไร โปรดใช้วิจารณญาณ 1. คาถาเชิญครูวิทการ์ (ในการประกอบพิธี) คาถานอร์สโบราณจากกัลตราบ๊ก Galdrabók หนังสือเวทมนตร์ของไอซ์แลนด์ (ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 16–17) Ég kalla á þig, þér máttugur galdramaðr, vernd þú mér gegn óvinum og illu valdi. (เย็ก คัลลา เอา ธิก, แธร์ มัตตูเกอร์ กาลดรามาทร์, เวิร์นด์ ธู เมร์ เก็ก ออวินุม เอาก์ อิลลู วัลดิ) ข้าขอเรียกท่าน พ่อมดผู้ทรงพลัง โปรดคุ้มครองข้าจากศัตรูและอำนาจชั่วร้าย 2. บทสวดจาก Hávamál (Poetic Edda) วรรณกรรมสำคัญของชาวนอร์ส Ár var alda, þat er ekki var, vara sandr né sær né svalar unnir, jörð fannsk æva né upphiminn, gap var Ginnunga, en gras hvergi. (อาร์ วาร์ อัลดา, ธัท แอร์ เอกกิ วาร์, วารา ซันด์ เน ซาเออร์ เน ซวาลาร์ อุนเนียร์, เยิร์ธ ฟานสค์ แอวา เน อุปฮิมินน์, กัป วาร์ กินนุงกา, เอน กราส เฮวรกิ) เมื่อครั้งบรรพกาล ยังไม่มีสิ่งใด ไม่มีทราย ไม่มีทะเล ไม่มีคลื่น ไม่มีผืนดิน ไม่มีฟ้า มีเพียงความว่างเปล่าแห่ง Ginnungagap (กินนุนกากับ) 3. คำสาบานนักรบผู้ใช้เวทมนตร์รู...

คาถาโบราณและพิธีกรรมนอร์ส

รูปภาพ
คาถาโบราณและพิธีกรรมนอร์ส      มีบันทึกหลงเหลือเกี่ยวกับคาถานอร์สโบราณอยู่บ้าง แต่พบว่าเป็นลักษณะวลีเก่าแก่ หรือประโยคคำพูดคล้ายของคนโบราณ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวลีศักดิ์สิทธิ์ หากนำมาร่ายพร้อมกันในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์จะช่วยเพิ่มความขลัง แต่ในมุมของนักมายาศาสตร์ยุคใหม่ อาจมองว่ามีขีดจำกัดทางด้านภาษาร่วมอยู่ด้วย ดังนั้น ผู้เขียนพอจะยกตัวอย่างมาเป็นวิทยาทานได้บ้าง แต่หากใครสนใจเพิ่มเติม อาจจะต้องค้นคว้าด้วยตัวเองต่อไป อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจในเวทมนตร์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากคุณต้องการฝึกให้สำเร็จ จะต้องเข้าใจมิติพลังงานให้ได้ด้วยตนเอง และการร่ายคาถาที่ดีที่สุด ก็คือการเอ่ยนามอักขระรูนให้ชัด และกำหนดจิตอธิษฐานให้ชัดเจน ยิ่งภาพในหัวชัดเท่าไหร่ สิ่งที่ปรากฏก็จะมากขึ้นเท่านั้น และไม่มีใครการันตีความสำเร็จของคุณได้เท่าตัวคุณเอง และการสร้างเวทมนตร์ในแบบนอร์ส แตกต่างจากของไทย โดยที่คนไทยนิยมการร้องขอและติดสินบน หากอะไรสำเร็จ จะทำบางสิ่งให้ อะไรทำนองนั้น แต่ในศาสตร์เวทมนตร์นอร์ส จะต้องจ่ายด้วยความซื่อสัตย์ คุณธรรม หรือการกระทำบางอย่างอันทรงเกียรติ และต้องทำมันก่อนที่จะใช้เวทมนตร์ ร่วม...

ความหมายพลังและอำนาจของอักขระรูนในเชิงการร่ายเวทมนตร์

รูปภาพ
ความหมายพลังและอำนาจของอักขระรูนในเชิงการร่ายเวทมนตร์  มีคำอธิษฐานโบราณที่ถอดความไว้ให้เป็นแนวทาง ไม่จำเป็นต้องร่ายด้วยคำเหล่านั้นเสมอไป ไม่มีกฎตายตัวอย่างที่บอกไปแล้ว คุณเลือกนำไปใช้ตามที่ใจปรารถนาเถิด ᚠ (เฟฮู) - "Féu gafr, auðr beran!" (Feh-oo gah-vr, aud-thr be-ran) เฟฮู กาฟร์, อูธร์ แบรอน "ทรัพย์สินไหลมา, ความมั่งคั่งข้ามาถึง!" เจตจำนงที่อธิษฐานเพิ่มเติม : 1. เสริมสร้างพลังจิต 2. ช่องทางสำหรับการถ่ายโอนหรือขับพลัง รูนส่งพลัง 3. ดึงพลังที่ฉายออกมาจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว เข้าสู่พื้นโลก 4. ส่งเสริมวิวัฒนาการส่วนบุคคลและสังคม 5. เพิ่มพูนความมั่งคั่งทางการเงินส่วนบุคคล ᚢ (อูรูซ) - "Uruz mik fæðir, máttugr ok sterkr!" (Oo-rooz mik fye-thir, mah-too-gr ok stehrk) อูรุดซ์ มิก เฟดร์, มอทตูก รูค สแตกร์ "พลังแห่งปฐพีหล่อเลี้ยงข้า, แข็งแกร่งและทรงพลัง!" เจตจำนงที่อธิษฐานเพิ่มเติม : 1. การกำหนดและสร้างสรรค์สถานการณ์อย่างสร้างสรรค์ผ่านเจตจำนงและแรงบันดาลใจ 2. การเยียวยาและรักษาสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี 3. ผู้ก่อให้เกิดสถานการณ์อันเป็นมงคล...

วิธีการใช้ไม้ร่ายคาถารูน

รูปภาพ
วิธีการใช้ไม้ร่ายคาถารูน อาจจำแนกไปตามความต้องการของผู้ใช้ โดยหลักแล้วแบ่งออกเป็น 3 วัตถุประสงค์สำคัญ คือ 1. ใช้เพื่อ Empower หรือการให้อำนาจแก่เครื่องรางของขลัง หรือรอยจาร การสลัก เพื่อให้เชื่อมโยงกับพลังงานต้นกำเนิดรูน หรือให้รูนนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้น คล้ายกับการปลุกเสกเลขยันต์ในบ้านเรานั่นเอง สำหรับวิธีการให้อำนาจนั้นง่ายมาก ใช้เทคนิคเดียวกับการฝึกสมาธิทรานซ์ คือเพ่งไปที่รอยจารอักขระรูนดังกล่าว แล้วดึงพลังต้นกำเนิดมาประทับใส่รอยจารเหล่านั้น (ไม่ต้องเก็บเข้ากลางหน้าผากเหมือนตอนฝึกตบะนะครับ) ให้พลังถูกจารึกและมีความศักดิ์สิทธิ์แล้วกำหนดจิตอธิษฐานขอพลังของรูนดังกล่าว ซึ่งคำอธิษฐานเป็นไปตามเจตจำนงได้เลย ไม่จำเป็นต้องร่ายตามรูปแบบหรือภาษานอร์ดิกเสมอไป เพราะในระดับความเข้าใจของการฝึกจิต มุ่งเน้นการสร้างจินตภาพเป็นหลัก ความต้องการที่เราอธิษฐานถึงจะเป็นภาษาไทย แต่จินตภาพหรือมโนภาพในหัวของเราเป็นการสื่อสารที่ชัดเจนที่สุด เพียงคุณต้องเอ่ยนามอักขระรูนให้ถูกต้อง กังวาน มีพลัง แล้วบอกกล่าวเจตจำนงลงไปนั่นเอง 2. ใช้เพื่อส่งเวทมนตร์ไปสู่เป้าหมายบา...

การชำระพลังไม้คาถารูน ก่อนและหลังใช้งาน

รูปภาพ
การชำระพลังไม้ก่อนและหลังใช้งาน นักมายาศาสตร์ยุคใหม่จะให้ความสำคัญเกี่ยวกับพลังงานและธาตุทั้งสี่เสมอ ก่อนใช้ไม้คาถารูน จึงนิยมชำระพลังไม้ด้วยการเสกน้ำประพรมลงไป นำไม้ผ่านควันกำยานหรือควันสมุนไพร แล้วจึงนำมาใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ โดยไม้ที่เลือกนำมาทำไม้คาถาจะมีความเชื่อแตกต่างกันดังต่อไปนี้ 1. ไม้โอ๊ค (Oak) คุณสมบัติหลัก: ความมั่นคง ปกป้อง และพลังชีวิต เวทมนตร์: เสริมความเข้มแข็ง ความอดทน และความยั่งยืนในการทำเวท จิตวิญญาณ: เชื่อมต่อกับเทพแห่งป่าและพลังธรรมชาติ 2. ไม้แอช (Ash) คุณสมบัติหลัก: ความรู้ สติปัญญา และการติดต่อกับโลกวิญญาณ เวทมนตร์: เสริมสติปัญญา การทำนาย และการเชื่อมต่อกับพลังธรรมชาติ จิตวิญญาณ: การเรียนรู้ เปิดจิตสัมผัสในการหยั่งรู้อนาคต 3. ไม้เชอร์รี่ (Cherry) คุณสมบัติหลัก: ความรัก ความอุดมสมบูรณ์ และพลังชีวิต เวทมนตร์: เสริมความรัก ความสัมพันธ์ และโชคลาภ จิตวิญญาณ: สื่อสารกับเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์หรือเทพแห่งดวงดาว 4. ไม้สน (Pine) คุณสมบัติหลัก: การปกป้อง การฟื้นฟู และความยั่งยืน เวทมนตร์: เสริมภูมิคุ้มกันทางจิตวิญญาณ ปกป้องจากพลังลบ จิตวิญญา...

การร่ายด้วยไม้คาถารูน

รูปภาพ
การร่ายด้วยไม้คาถารูน      สำหรับการใช้ไม้คาถารูนนั้น มีหลากหลายที่สามารถยึดโยงเป็นแนวปฏิบัติให้ตนเองได้ โดยการใช้ไม้เพื่อประกอบพิธีกรรมนั้น มีมาตั้งแต่ยุคโบราณก่อนชาวนอร์ส เช่น อียิปต์โบราณ ราว 2,000 ปีก่อนคริสตกาล จนถึง ค.ศ.1000 ค้นพบ Wand of Apotropaic ที่ทำจากงาช้างในพิธีปกป้องเด็กและแม่ ซึ่งงาช้างนี้พบเห็นเป็นสัญลักษณ์เทพหรือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ เพื่อเพิ่มพลังป้องกัน ต่อมาในยุคกรีก-โรมัน ราว 800 ปีก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ.400 เช่น Hermes/Mercury ที่ถือ Caduceus หรือคทาที่มีงูพัน อันเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ การสื่อสาร หรือจะเป็น Hecate และหมอผีที่ใช้ไม้คาถาในพิธีเรียกวิญญาณและทำ Divination ในส่วนของไม้คาถาในแบบนอร์สนั้น ถูกใช้โดยแม่มดหญิงโวลลา หรือเซธร์มาธ เพื่อใช้ทำนายอนาคต หรือร่ายเวทมนตร์ตามวิชาของสำนักของตนรวมถึงเหล่าวิทกิ (Vitti) ที่ใช้คาถารูนอย่างชาญฉลาด และมีการขุดค้นพบที่ Oseberg ประเทศนอร์เวย์ ราว ค.ศ.834 เป็นไม้คทาเหล็ก (Iron Staff) ในหลุมศพของโวลวา มีหลักฐานเป็นบันทึกว่ามีการใช้งานจริง อีกทั้งการใช้ไม้คาถาไ...