สูตรแกงเห็ดป้องกันไข้หวัดได้ด้วยสมุนไพรไทย #สายสุขภาพ
วันนี้ชวนทุกคนทำแกงเห็ดสูตรใหม่ครับ เวลาป่วย เป็นไข้ เป็นหวัด ทานดีนักแล เริ่มจากการทำพริกแกงสูตรพิเศษของเรากันก่อน สูตรนี้สำหรับ 1 ชามโต ๆ ทานได้ 2 - 3 ท่าน นะครับ
เครื่องปรุงพริกแกง
1. หอมแดง 3 หัว
2. กระชาย 5 ราก
3. พริกชี้ฟ้าส้ม 2 เม็ด
4. กระเทียมกลีบใหญ่ 3 หัว
5. รากผักชี 3 ราก
6. ฝุ่นกุ้ง /ผงกุ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
โขลกทุกอย่างให้เข้ากัน หลังจากนั้นตั้งน้ำ 600-700 มล. (ประมาณหม้อหูจับ)
7. ใส่ตะไคร้ทุบลงไป
8. ใส่ขิง 2-3 แว่น ข่า 4-5 แว่น
9. ใส่เห็ดที่เราชื่นชอบลงไป จะใส่ฟักทอง ใส่บวบด้วยก็ได้นะครับ แล้วแต่ชอบ ส่วนตัวชอบเห็ดนางฟ้า กับเห็ดฟางด้วยนะครับ แต่ว่า คุณพ่อบ้านเค้าเอาไปดองหมดแล้ว เลยได้เห็ดเท่าที่เห็น
เวลาต้ม อาจมีฟองฟอดขึ้นมาบ้าง ไม่ต้องตกใจนะครับ ตักออกได้เลยนะครับ
10 ต้มจนสมุนไพรแตกตัว ใส่ใบแมงลัก และใบกะเพราลงไปตามชอบได้เลยครับ
ปรุงรสด้วยน้ำปลา ต้องใส่ตอนน้ำเดือดจัดเท่านั้นนะครับ น้ำปลาถึงจะหอม สำหรับคนที่ไม่ชอบทานหวาน ก็เป็นอันเสร็จพิธี แต่ท่านใดที่ติดทานหวาน หรือต้องการความหวานไปตัดเล็กน้อย ไม่แนะนำให้ใช้น้ำตาลทราย เพราะมีแต่ผลเสียต่อร่างกาย ให้ใช้น้ำหญ้าหวานแทนครับ สำหรับที่ร้านมีจำหน่ายในรูปแบบน้ำตาลหญ้าหวาน หรือ ผงสารสกัด ซึ่งตัวผงสกัดนำไปผสมน้ำร้อนอัตราส่วน ผง 1 ขีด : น้ำร้อน 1 ลิตร ใช้แทนน้ำเชื่อมได้เลย กรณีนี้ ถ้าจะปรุงหวานตัด ให้ใช้น้ำหญ้าหวาน 25 ml. ครับ
ใส่พริกแห้งคั่วเพิ่มความหอม และเผ็ดร้อนกันสักหน่อย แล้วแต่ชอบนะครับ เสร็จแล้วเราก็จะได้แกงเห็ดสมุนไพรแท้ แก้พิษไข้ กันแล้วนะครับ
สำหรับท่านที่หาซื้อฝุ่นกุ้งไม่ได้ สั่งทางร้านได้เช่นกันนะครับ
สรรพคุณสมุนไพรในแกงเห็ดสูตรของผม
1. หอมแดง : มีสารเคอร์ซิติน ซึ่งเป็นยาขยายหลอดลม ที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน และช่วยขยายหลอดลม แก้ไข้หวัด คัดจมูก ลดน้ำมูก ไอเรื้อรัง
2. กระชาย : บำรุงสมอง แก้อาการวิงเวียนศีรษะ ทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ บำรุงตับ รักษาโรคกระเพาะ ทำให้ไตแข็งแรง ช่วยป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ แก้อาการแน่นหน้าอก และแก้โรคในปาก เช่น ปากแห้ง ปากเปื่อย
3. พริกชี้ฟ้าส้ม : ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยระบบหายใจ ลดความดัน ช่วยการไหลเวียนโลหิต ลดอาการคัดจมูก แก้ลมจุกเสียด ขับเสมหะ และปัสสาวะ
4. กระเทียมกลีบใหญ่ : ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ต้านการอักเสบ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคมะเร็ง และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แก้พิษไข้หวัด รับประทานเป็นยาแก้อักเสบในปอด ในอก แก้เสลด
5. รากผักชี : ช่วยเจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ลดพิษไข้
6. ฝุ่นกุ้ง : สารไคติน ลดระดับคอเรสเตอรอลในเลือด ช่วยในการเคลื่อนตัวของกากอาหารในลำใส้ คล้ายไฟเบอร์ แน่นอนว่าส่วนของเปลือกกุ้งย่อมมีแคลเซี่ยมอีกด้วย สารไคตินที่ได้จากส่วนหัวและเปลือกกุ้งนั้น สกัดเป็น ไคโตซาน ส่วนใหญ่มักใช้ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักนั่นเอง
7. ขิง : บำรุงปอด รักษาอาการคลื่นใส้อาเจียนเวียนหัว แก้อาการกรดไหลย้อน ขับเหงื่อ ขับพิษไข้ออกจากร่างกาย ลดไข้ ป้องกันหวัด ลดคอเรสเตอรอล แก้ไอ เนื่องจากในขิงมีสารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีการทดลองพบว่า น้ำขิงแก่ ต้มน้ำเดือดนาน 30 นาที ทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาส จับกินไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดีขึ้น
8. ข่า : ขับลมในลำไส้ แก้ปวดมวนในท้อง เป็นยาขับลมในหญิงหลังคลอดบุตร ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคหลอดลมอักเสบ ทางเดินหายใจ หลอดเลือด
9. ตะไคร้ : คนจีนและคนไทยโบราณ ใช้ตะไคร้รักษาหวัด หวัดใหญ่ แก้ไข้ แก้ปวดหัว ปวดท้อง เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันได้ดีเยี่ยม ช่วยต้านอนุมูลอิสระ แก้อักเสบ และต้านไวรัสไข้หวัด
10. เห็ด : สรรพคุณของเห็ดหลากหลายชนิดมีมากมาย เป็นยาอายุวัฒนะ เพราะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด อีกทั้งยังเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสและมะเร็งด้วย และมีกรดอะมิโนถึง 21 ชนิด มีวิตามิน บี 1 บี 2 สูง พอๆ กับยีสต์ มีวิตามินดีสูงช่วยบำรุงกระดูกและมีปริมาณโซเดียมต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคไต นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ซึ่งช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง จุดเด่นของอาหารจากเห็ดคือมีโปรตีนสูง แต่ให้ไขมันต่ำ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก มีโพแทสเซียมช่วยลดความดันโลหิต
11. ใบแมงลัก : ธาตุเหล็ก บำรุงเลือด เปลี่ยนถ่ายอ๊อกซิเจน แก้เจ็บคอ ลดไอ ขับเสมหะ สารเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยทำให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินเอได้เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการบำรุงผิวหนัง และบำรุงสายตากรดของสารประกอบฟีนอลลิกในใบแมงลัก ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้ผิวพรรณแลดูอ่อนกว่าวัย
12. ใบกะเพรา : ใบกะเพราช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นและป้องกันอาการหวัด มีฤทธิ์ในการช่วยขับไขมันและน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย ช่วยลดระดับไขมันในร่างกายและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้
13. หญ้าหวาน : ให้ความหวานแทนน้ำตาล
เครื่องปรุงพริกแกง
1. หอมแดง 3 หัว
2. กระชาย 5 ราก
3. พริกชี้ฟ้าส้ม 2 เม็ด
4. กระเทียมกลีบใหญ่ 3 หัว
5. รากผักชี 3 ราก
6. ฝุ่นกุ้ง /ผงกุ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
โขลกทุกอย่างให้เข้ากัน หลังจากนั้นตั้งน้ำ 600-700 มล. (ประมาณหม้อหูจับ)
7. ใส่ตะไคร้ทุบลงไป
ใส่พริกแห้งคั่วเพิ่มความหอม และเผ็ดร้อนกันสักหน่อย แล้วแต่ชอบนะครับ เสร็จแล้วเราก็จะได้แกงเห็ดสมุนไพรแท้ แก้พิษไข้ กันแล้วนะครับ
สรรพคุณสมุนไพรในแกงเห็ดสูตรของผม
1. หอมแดง : มีสารเคอร์ซิติน ซึ่งเป็นยาขยายหลอดลม ที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน และช่วยขยายหลอดลม แก้ไข้หวัด คัดจมูก ลดน้ำมูก ไอเรื้อรัง
2. กระชาย : บำรุงสมอง แก้อาการวิงเวียนศีรษะ ทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ บำรุงตับ รักษาโรคกระเพาะ ทำให้ไตแข็งแรง ช่วยป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ แก้อาการแน่นหน้าอก และแก้โรคในปาก เช่น ปากแห้ง ปากเปื่อย
3. พริกชี้ฟ้าส้ม : ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยระบบหายใจ ลดความดัน ช่วยการไหลเวียนโลหิต ลดอาการคัดจมูก แก้ลมจุกเสียด ขับเสมหะ และปัสสาวะ
4. กระเทียมกลีบใหญ่ : ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ต้านการอักเสบ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคมะเร็ง และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แก้พิษไข้หวัด รับประทานเป็นยาแก้อักเสบในปอด ในอก แก้เสลด
5. รากผักชี : ช่วยเจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ลดพิษไข้
6. ฝุ่นกุ้ง : สารไคติน ลดระดับคอเรสเตอรอลในเลือด ช่วยในการเคลื่อนตัวของกากอาหารในลำใส้ คล้ายไฟเบอร์ แน่นอนว่าส่วนของเปลือกกุ้งย่อมมีแคลเซี่ยมอีกด้วย สารไคตินที่ได้จากส่วนหัวและเปลือกกุ้งนั้น สกัดเป็น ไคโตซาน ส่วนใหญ่มักใช้ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักนั่นเอง
7. ขิง : บำรุงปอด รักษาอาการคลื่นใส้อาเจียนเวียนหัว แก้อาการกรดไหลย้อน ขับเหงื่อ ขับพิษไข้ออกจากร่างกาย ลดไข้ ป้องกันหวัด ลดคอเรสเตอรอล แก้ไอ เนื่องจากในขิงมีสารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีการทดลองพบว่า น้ำขิงแก่ ต้มน้ำเดือดนาน 30 นาที ทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาส จับกินไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดีขึ้น
8. ข่า : ขับลมในลำไส้ แก้ปวดมวนในท้อง เป็นยาขับลมในหญิงหลังคลอดบุตร ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคหลอดลมอักเสบ ทางเดินหายใจ หลอดเลือด
9. ตะไคร้ : คนจีนและคนไทยโบราณ ใช้ตะไคร้รักษาหวัด หวัดใหญ่ แก้ไข้ แก้ปวดหัว ปวดท้อง เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันได้ดีเยี่ยม ช่วยต้านอนุมูลอิสระ แก้อักเสบ และต้านไวรัสไข้หวัด
10. เห็ด : สรรพคุณของเห็ดหลากหลายชนิดมีมากมาย เป็นยาอายุวัฒนะ เพราะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด อีกทั้งยังเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสและมะเร็งด้วย และมีกรดอะมิโนถึง 21 ชนิด มีวิตามิน บี 1 บี 2 สูง พอๆ กับยีสต์ มีวิตามินดีสูงช่วยบำรุงกระดูกและมีปริมาณโซเดียมต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคไต นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ซึ่งช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง จุดเด่นของอาหารจากเห็ดคือมีโปรตีนสูง แต่ให้ไขมันต่ำ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก มีโพแทสเซียมช่วยลดความดันโลหิต
11. ใบแมงลัก : ธาตุเหล็ก บำรุงเลือด เปลี่ยนถ่ายอ๊อกซิเจน แก้เจ็บคอ ลดไอ ขับเสมหะ สารเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยทำให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินเอได้เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการบำรุงผิวหนัง และบำรุงสายตากรดของสารประกอบฟีนอลลิกในใบแมงลัก ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้ผิวพรรณแลดูอ่อนกว่าวัย
12. ใบกะเพรา : ใบกะเพราช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นและป้องกันอาการหวัด มีฤทธิ์ในการช่วยขับไขมันและน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย ช่วยลดระดับไขมันในร่างกายและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้
13. หญ้าหวาน : ให้ความหวานแทนน้ำตาล
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น